คอนเฟิร์ม! “พลังประชารัฐ”นัด 6 ธ.ค.เปิดตัว”มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์”

พปชร.นัด 6 ธ.ค.เปิดตัว “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” ด้าน “ดำรงค์ พิเดช” คอนเฟิร์มลาออกหัวหน้าพรรคโอกาสไทย คาดสูตรหาร 100 พรรคเล็กสู้ไม่ไหว

ความคืบหน้ากรณีที่มีกระแสข่าวสารว่า นาย มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ที่ได้ลาออกไปเปิดตัวพรรคโอกาสไทย เตรียมพร้อมสำหรับการไปร่วมงาน พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)

มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ล่าสุด พปชร.จัดเตรียมเปิดตัวนาย มิ่งขวัญ อย่างเป็นทางการในวันที่ 6 ธ.ค. เวลา 15.30 น.

เหมือนกับ นายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ยืนยันว่า นายมิ่งขวัญ ได้ลาออกจากหัวหน้าพรรคโอกาสไทย เพื่อไปร่วมงานกับ พปชร. โดยคาดว่าสาเหตุคงจะมาจากสูตรคำนวณบัญชีรายชื่อที่ใช้ 100 เป็นตัวหาร ที่อาจทำให้พรรคเล็กเสียเปรียบ

นายดำรงค์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ พรรครักษ์ผืนป่าฯ ได้ประชุมแล้วก็เปลี่ยนชื่อเป็น พรรคโอกาสไทย โดยมีนายมิ่งขวัญ เป็นหัวหน้าพรรค แต่ล่าสุดได้รับแจ้งแล้วว่า นายมิ่งขวัญ ได้ลาออกจากหัวหน้าพรรค เพื่อจัดเตรียมเข้าร่วมงานกับ พปชร.โดยจะมีการแถลงข่าวสารอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้

นายดำรงค์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายมิ่งขวัญ เข้ามาเปลี่ยนชื่อพรรครักษ์ผืนป่าฯ เป็นพรรคโอกาสไทย เพื่อจัดเตรียมสู้ศึกออกเสียงที่ใช้บัตรสองใบ แล้วก็คาดว่าจะใช้สูตรคำนวณบัญชีรายชื่อโดยใช้ 500 เป็นตัวหาร แต่เมื่อสถานการณ์กลับไปเป็นใช้ 100 เป็นตัวหาร เขาก็ประเมินว่า พรรคเล็กคงสู้ไม่ไหว ต่อมานายมิ่งขวัญคงจะได้คุยกับพรรคพลังประชารัฐ ที่ขาดทีมเศรษฐกิจอยู่ เขาก็เลยตัดสินใจไปทางนั้น

นายมิ่งขวัญไม่ได้มีปัญหาภายในอะไรกับพรรคโอกาสไทย แต่เรื่องนี้เกิดจากเรื่องกฎหมายออกเสียงที่ใช้บัตรสองใบ แล้วก็เป็นสูตรหาร 100 ซึ่งพรรคเล็กตายหมด ไปไม่ได้สักพรรค รวมทั้งพรรคเกิดใหม่ก็ลำบากด้วย

ผู้สื่อข่าวแถลงการณ์ว่า ในการออกเสียงปี 2562 นายมิ่งขวัญ ได้รับเลือกให้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในนามพรรคเศรษฐกิจใหม่ แล้วก็ในเวลาต่อมาเขาได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยบอกว่า ตนเองกับสมาชิกพรรคมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่ต่างกัน ต่อมาเมื่อวันที่ 17 เดือนกุมภาพันธ์2565 เขาได้ประกาศลาออกจาก ส.ส.ขณะที่กำลังอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

เปิดตัว มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
ย้อนวาทกรรม “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” กลางสภา “งูเห่า-ลิงกินกล้วย”

“งูเห่า-ลิงกินกล้วย” ประโยคเด็ด จากปาก “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” ที่เคยบอกกลางสภาในวันที่17เดือนกุมภาพันธ์2565 วันนี้กลับมาอยู่ในความสนใจอีกรอบ

หลังมีรายงานข่าวสารจากพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงการทาบทาม นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ แล้วก็ผู้จัดตั้งพรรคโอกาสไทย ซึ่งล่าสุดได้รับคำยืนยันว่านายมิ่งขวัญ จัดเตรียมร่วมงานพรรคพลังประชารัฐ ในส่วนของทีมเศรษฐกิจพรรค แล้วก็จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการหลังจากนี้

กรณีดังกล่าวนับว่าเรียกเสียงฮือฮาแล้วก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่ไม่น้อย เนื่องมาจากเมื่อครั้งที่นายนายมิ่งขวัญ เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ แล้วก็หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ขณะนั้นเจ้าตัวได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจน ในการสนับสนุนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ

แตกต่างจากแนวทางของส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่อีก 5 คนที่เหลือ โดยยิ่งไปกว่านั้นการลงมติในสภาผู้แทนราฎร ที่ในช่วงหลังมักจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยยิ่งไปกว่านั้นพรรคพลังประชารัฐเสียโดยมาก

ก่อนที่ต่อมาเมื่อครั้งมีการการประชุมสภาส.ส. ในวาระญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐกฎหมายธรรมนูญมาตรา152 เมื่อวันที่17เดือนกุมภาพันธ์2565 นายมิ่งขวัญ ได้อภิปรายเน้นย้ำถึงความล้มเหลวในการบริหารราชการของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแล้วก็รัฐมนตรีว่าการกลาโหม

มิ่งขวัญ

โดยตอนนั้นนายมิ่งขวัญ อภิปรายตอนหนึ่งว่า ในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ทำให้เกิดนวัตกรรมศัพท์ขึ้นมาใหม่ 2 คำคำแรกคือคำว่า “งูเห่า” คำที่สองคือคำว่า “ลิงกินกล้วย” ผมบอกเลยว่าถ้าเกิดผมกำลังจะเอ่ยเป็นภาษาชาวบ้านผมเกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ผมพึ่งเข้าใจ แสลงนี้ชัดเจนวันนี้ สิ่งที่ผมกำลังจะเอ่ยต่อแต่นี้ไปก็คือ

“ผมขออภิปรายแล้วก็ไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาว่าท่านไปทำอะไรหรือ ให้ใครไปทำอะไรทำไมพวกเขาเหล่านั้นก็เลยเปลี่ยนจุดยืนผมขอบอกไว้เลยว่าสัญญาที่ให้ไว้กับ ประชาชนผมไม่สามารถทรยศหักหลังได้ 2 ปีเศษผม ไม่มีความสุขกับการทำงาน” นายมิ่งขวัญกล่าวเมื่อวันที่17เดือนกุมภาพันธ์2565

โดยหลังเสร็จการอภิปรายตอนนั้นนายมิ่งขวัญ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ต่อประธานสภาส.ส.กลางที่ประชุมสภาในวันเดียวกัน พร้อมย้ำว่า

“สิ่งที่สำคัญที่สุดผมจะออกไปพิสูจน์ว่าถึงแม้ผมไม่ได้เป็นรัฐบาลความเหลื่อมล้ำจะถูกแก้ไขหรือไม่โปรดติดตามตามใจ แล้วก็ผมก็จะไปเตรียมความพร้อมสำหรับการออกเสียงในสมัยหน้าถัดไปด้วยพวกเราได้เจอกันแน่นอน”

พลังประชารัฐ
ก่อนที่ต่อมาในวันที่8มิ.ย. นายมิ่งขวัญ จะแถลงร่วมงานพรรคโอกาสไทย พร้อมชูทางเลือกมุ่งแก้วิกฤตเศรษฐกิจประเทศ

โดยในการแถลงข่าวสารวันดังกล่าวผู้สื่อข่าวยังได้ถามหาจุดยืนของพรรค จะช่วยเหลือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี โดย นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ไม่รู้ แต่เดินตรงไปตามที่เคยเดิน จุดยืนคือประชาธิปไตย ตอนนี้ยังไม่ร่วมกับพรรคไหน จะขอเปิดเผยในการแถลงข่าวสารในหนต่อไป

ตอนนี้ยังไม่รู้จะได้ส.ส.เท่าไร แต่คนที่จะเข้าร่วมกับพรรคต้องเป็นคนที่สนใจแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ถ้าเกิดไม่สนใจก็ทำงานร่วมกันไม่ได้ เตรียมความพร้อมเต็มที่มาอย่างดี มีคนสนใจเข้าร่วมกับพรรคระดับหนึ่ง มีความหลากหลายมีทั้งคนแก่แล้วก็คนอายุน้อย จากสายวิชาการ การศึกษา เกษตร อาจจะเป็นคนหน้าใหม่ แต่ขอยังไม่กล่าวว่าเป็นใครบ้าง

“วันนี้ขออย่าให้ผมไปเถียงกับใครเลย ไม่อยากเถียงกับใคร สำหรับพรรคโอกาสไทย นี้ผมจะเป็นหัวหน้าพรรคแล้วก็เป็นแคนดิเดต นายกฯเอง” นายมิ่งขวัญกล่าวเมื่อวันที่ 8มิ.ย.2565

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การร่วมงานพรรคพลังประชารัฐ ของ “มิ่งขวัญ” ในครั้งนี้ถูกตั้งคำถามรวมทั้งเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงจุดยืนของเขาผู้นี้อยู่ไม่น้อย ขณะเดียวกันการโยกย้ายสลับสับเปลี่ยนพรรค-เปลี่ยนขั้วของบรรดา “นักเลือกตั้ง”ยามนี้ ยังนับเป็นการ ตอกย้ำถึงสัญญาณออกเสียงที่ใกล้เข้ามาทุกขณะ !